นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค สมุนไพรจีนแช่เท้า ทำจากสมุนไพร 8 ชนิด

ฮอร์โมนบำบัดสำหรับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

28-Feb-2019 อ่าน : 3848 คน

ฮอร์โมนบำบัดสำหรับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทย การรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ฮอร์โมนบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่ใช้ฮอร์โมนเพศชายเพื่อชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ฮอร์โมนบำบัดทำงานอย่างไร

ฮอร์โมนบำบัดทำงานโดยลดระดับฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) ในร่างกาย เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก การลดระดับเทสโทสเตอโรนสามารถช่วยชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

ประเภทของฮอร์โมนบำบัด

มีฮอร์โมนบำบัดสองประเภทหลักสำหรับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก:

การทำหมันต่อมลูกหมาก: วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดเพื่อเอาต่อมลูกหมากออก การทำหมันต่อมลูกหมากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดระดับเทสโทสเตอโรน แต่เป็นการรักษาที่รุนแรง
ยา: มีหลายชนิดของยาที่สามารถใช้สำหรับฮอร์โมนบำบัด ยาเหล่านี้สามารถรับประทานได้เป็นยาเม็ดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ยาบางชนิดสามารถช่วยลดการผลิตเทสโทสเตอโรนของร่างกาย ยาอื่น ๆ สามารถปิดกั้นไม่ให้เทสโทสเตอโรนออกฤทธิ์ในร่างกาย

ผลข้างเคียงของฮอร์โมนบำบัด

ฮอร์โมนบำบัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่:

ความร้อนวูบวาบ: นี่คือความรู้สึกของความร้อนเฉียบพลันที่อาจมาพร้อมกับเหงื่อออก
ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ: ฮอร์โมนบำบัดสามารถทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ยากขึ้น
ความต้องการทางเพศลดลง: ฮอร์โมนบำบัดสามารถลดความต้องการทางเพศ
ปัญหาทางอารมณ์: ฮอร์โมนบำบัดอาจทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เช่น ซึมเศร้าและวิตกกังวล
ปัญหาเกี่ยวกับกระดูก: ฮอร์โมนบำบัดสามารถทำให้กระดูกอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อกระดูกหัก

ประโยชน์ของฮอร์โมนบำบัด

ฮอร์โมนบำบัดสามารถช่วยปรับปรุงโอกาสในการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก ฮอร์โมนบำบัดยังสามารถช่วยลดอาการปวดและปรับปรุงคุณภาพชีวิต

ใครบ้างที่ควรได้รับฮอร์โมนบำบัด

ฮอร์โมนบำบัดอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่:

มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังปมน้ำเหลืองหรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
มะเร็งมีความเสี่ยงสูง
มะเร็งดื้อต่อการรักษาอื่น ๆ

การตัดสินใจว่าจะรับฮอร์โมนบำบัดหรือไม่นั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ผู้ป่วยควรพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของฮอร์โมนบำบัดเพื่อตัดสินใจว่าตัวเลือกนี้เหมาะสมหรือไม่