28-Dec-2018 อ่าน : 2058 คน
ผู้ป่วยที่รับประทานยาจีนมีข้อห้ามเรื่องอาหารการกินหรือไม่
ยาจีน นอกจากได้มาจากพืชสมุนไพรทั้งที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และที่เพาะเลี้ยงขึ้นมาแล้ว ยังรวมถึงตัวยาที่ได้จากสัตว์วัตถุ ธาตุวัตถุ สัตว์วัตถุเช่น เขากวางอ่อน ไส้เดือน ตุ๊กแก ชะมดเชียง เป็นต้น ส่วนธาตุวัตถุก็ได้แก่ กำมะถัน พิมเสน ดีเกลือ เป็นต้น ปัจจุบันยาจีนได้มีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และได้พัฒนาเป็นยาสำเร็จรูปหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นยาเม็ดแคปซูล ยาผง ยาเม็ดลูกกลอน ยาน้ำ ยาฉีด กระทั่งเป็นยาทา เป็นพลาสเตอร์ยา เพื่อสะดวกต่อการบริโภคของผู้ป่วย แต่ที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่สมัยโบราณก็คือยาหม้อ ซึ่งนำตัวยาสมุนไพรต่างๆที่หมอจีนจัดให้มาต้มในหม้อดินแล้วดื่ม
การเลือกใช้ยาปรุงสำเร็จรูปก็ควรต้องตรวจสอบจากกระบวนการผลิตว่าได้มาตรฐาน GMP หรือไม่ ผ่านการทดสอบทางห้องปฏิบัติการและการทดลองทางคลินิกมาหรือไม่ และที่สำคัญก็คงใช้ยาให้เหมาะสมกับอาการโรคของเราด้วย ไม่ใช่ฟังจากเพื่อนบ้านหรือคนแนะนำว่ายานี้ดี ก็ไปขอซื้อจากร้านขายยา หรือเดินไปหาหมอจีน แมะจับชีพจรจัดยาไปต้มอยู่ 3 -4 ชุด กินไม่ได้ผลก็เลิกกินเลย แล้วบอกว่ายาจีนกินแล้วไม่เห็นผล ในการรักษาโรคด้วยยาจีนนั้น ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยเฉพาะโรคมะเร็งซึ่งการพัฒนาของโรคค่อนข้างเร็วและสลับซับซ้อน การใช้ยาจีนรักษาจึงควรเป็นตำรับยาที่รวมตัวยาหลายหลากซึ่งมีสรรพคุณหลายๆ ด้าน เข้าบำบัดรักษาแบบองค์ร่วมประสานกับการฟื้นฟูเฉพาะส่วน จึงจะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาเด่นชัด การเลือกใช้ตัวยาตัวเดียวเพื่อบำบัดรักษานั้น ส่วนมากจะแก้ได้เพียงกลุ่มอาการโรค เช่น ไอก็แก้อาการไอ ท้องผูกก็แก้อาการท้องผูก เป็นต้น ตัวยาบางอย่างก็มีสรรพคุณเพียงขับร้อนถอนพิษหรือสลายก้อน แต่ไม่สามารถบำบัดเซลล์ที่สึกหรอ หรือไม่สามารถทำลายหรือยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ สุดท้ายผู้ป่วยก็ไม่บรรลุจุดประสงค์ในการรักษาหรือต้านโรคมะเร็ง แต่อาจสูญเสียการช่วงชิงโอกาสที่ดีไปอย่างน่าเสียดาย
ยาจีนช่วยเสริมประสิทธิภาพการผ่าตัด เพราะช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมรับการผ่าตัด ยาจีนช่วยบรรเทาผลข้างเคียงจากพิษของคีโมบำบัดและรังสีรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถยืนหยัดคีโมบำบัดหรือรังสีรักษาจนจบคอร์ส เพราะยาจีนจะช่วยปรับขับร้อนถอนพิษ ปรับชวี่เลือด ค้ำจุนเจิ้งชวี่ บำรุงไต บำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่จะเข้ารับการบำบัดในครั้งต่อไป
ผู้ป่วยบางรายอาจไม่เหมาะที่จะผ่าตัด หรือรับคีโมบำบัดและรังสีรักษาไม่ได้ การใช้ยาจีนจะมีบทบาทบรรเทาอาการของโรค เช่น ช่วยให้เจริญอาหาร ช่วยลดอาการปวด ลดอาการบวม ช่วยเสริมประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ดังนั้น การเริ่มใช้ยาจีน อาจกล่าวได้ว่ายิ่งเร็วยิ่งดี และควรใช้ยาจีนควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบันผู้ป่วยไม่ควรปฏิเสธการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน โรคมะเร็งบางชนิดเช่นมะเร็งกระเพาะอาหาร เมื่อผ่าตัดและทำคีโมหรือรังสีบำบัดแล้ว ก็มีโอกาสหายขาดสูงมาก ยิ่งถ้าได้ใช้ควบคู่กับยาจีน ผลการรักษาจะชัดเจนและเร็วยิ่งขึ้น มีบางท่านเข้าใจผิดคิดว่ายาจีนเหมาะจะใช้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเท่านั้น บางท่านคิดว่าจะใช้ยาจีนก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเมื่อท่านผ่านขั้นตอนการรักษาแผนปัจจุบันไม่ว่าจะผ่าตัดก็ดี คีโมหรือฉายแสงก็ดี สุขภาพท่านก็ถูกทำลายจนสะบักสะบอมแล้ว ภูมิคุ้มกันของร่างกายก็ตกต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าเม็ดเลือดขาวก็ดี เกล็ดเลือดก็ดี หรือแม้แต่เม็ดเลือดแดงก็ลดน้อยลงไปมาก เมื่อท่านมาพบหมอ ก็มักถามว่าจะรักษาหายไหม ต้องกินยาจีนนานเท่าไร ซึ่งเป็นคำถามที่หมอจะต้องใช้เวลาชี้แจงให้เข้าใจ การกินยานานเท่าไรนั้นขึ้นอยู่กับการพัฒนาไปของโรค สภาวะการขับพิษต่างๆ ในร่างกายออกไป การปรับสมดุลของหยินยาง การต้านและยับยั้งเซลล์มะเร็งให้ได้ ตลอดจนการฟื้นฟูเซลล์ที่สึกหรอ บำรุงร่างกายเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง คงเป็นการยากที่จะบอกได้ว่าเมื่อไรจะหาย หรือต้องกินยานานเท่าไร คงต้องรักษากันไปเป็นขั้นตอน และต้องใช้เวลาในการรักษา
ขอบคุณข้อมูลจาก :แพทย์จีน มาลิน ปิยะชินวรรณ
โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110