25-Oct-2018 อ่าน : 1835 คน
1. ใจบำบัด | รักษามะเร็ง ต้องรักษาใจเป็นลำดับแรก
การปฏิบัติต่อผู้ป่วยมะเร็งในช่วงแรก บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ดูแลต้องใช้หลักใจบำบัด เพื่อขจัดปัญหาของผู้ป่วย อาทิ ความเครียด ความวิตกกังวล ความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว ความกลัว การต่อต้าน ความเสียใจ ความท้อแท้สิ้นหวัง ใช้หลักการรักษาใจก่อนรักษามะเร็งอย่างยืนหยัด ตัวอย่างวิธีเพื่อบำบัดด้านใจ ได้แก่ (1) การพูดคุย (2) การปลอบใจ (3) อารมณ์ขัน (4) ให้คำแนะนำ
2. การรักษาแบบจู่โจม | ผสมผสานแพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบัน
คือ การให้ยาหลากหลายทาง ทั้งยารับประทาน ยาฉีด ยาเหน็บ ยาติดแปะภายนอก เป็นต้น ในปริมาณยาที่มาก ให้ยาเข้าสู่กระแสเลือดในระดับเข้มข้นขึ้น เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง กลไกการรักษาแบบจู่โจม ช่วยให้
การรักษาแบบผสมผสานนี้ มีรากฐานมาจากหลักการ “กำจัดสิ่งไม่ดีไม่ทำลายสิ่งดี ส่งเสริมสิ่งดีไม่ส่งเสริมสิ่งไม่ดี” ทำการแยกแยะวินิจฉัยโรคตามกลุ่มอาการ และการวางแผนการรักษาอย่างเป็นแบบแผน
3. ขยายเวลาการรักษา | ป้องกันการเกิดซ้ำและแพร่กระจาย
หลังการผู้ป่วยมะเร็งเสร็จสิ้นการรักษาตามแบบแผนแล้ว ยังจำเป็นต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง หลังผู้ป่วยมะเร็งผ่าตัด ฉายรังสี เคมีบำบัด ควรต่อเนื่องด้วยการรักษาแบบแพทย์แผนจีนผสานแผนปัจจุบันตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันเกิดซ้ำและแพร่กระจาย ผู้ป่วยมะเร็งหลังผ่านการรักษาอาการของโรคสงบแล้ว อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ยังต้องมีรักษาเพื่อป้องกันเกิดซ้ำและแพร่กระจาย ระหว่างการตรวจวินิจฉัยค่ามะเร็ง ควรเร่งการรักษาด้วยสมุนไพรจีน ถ้าผลตรวจไม่พบค่าความผิดปกติค่อยลดปริมาณการใช้ โดยทั่วไปผู้มีความเสี่ยงมะเร็งควรใช้สมุนไพรจีนเพื่อป้องกัน เดือนละ 10 วัน
4. โภชบำบัด | ยาและอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน มีผู้คนมากมายเป็นมะเร็งเนื่องมากจากพฤติกรรมการบริโภค เช่น บริโภคถั่วขึ้นรามีสารอัลฟ่าท็อกซิน มีความเสี่ยงเกิดมะเร็งตับได้ มะเร็งหลังโพรงจมูกและมะเร็งกระเพาะอาหารมีความสัมพันธ์กับการบริโภคอาหารหมักดองอย่างชัดเจน ผู้ป่วยมะเร็งในช่วงฟื้นฟูสุขภาพ ควรหมั่นรับประทานอาหารต้านมะเร็ง อาทิ ผักสด ผลไม้ เลือดหมู กระเทียม เห็ดหอม เห็ดหูหนูดำ ไป่เหอ ถั่วต่าง ๆ มันเทศ เป็นต้น
5. ดนตรีบำบัด | อารมณ์ดีช่วยฟื้นฟูร่างกาย
การศึกษาวิจัยพบว่า การฟังดนตรีมีประโยชน์ต่อระบบลิมบิก (Limbic System) ในสมอง ระบบประสาทส่วนกลางของสมอง เยื่อหุ้มสมอง ทำให้การเคลื่อนไหวของอวัยวะภายใน อารมณ์และพฤติกรรม ทำงานประสานกันได้ดี ส่วนการร้องเพลงเต้นรำช่วยปรับปรุงด้านอารมณ์ ช่วยสร้างความสุขให้ผู้ป่วยส่งผลดีต่อการฟื้นฟูสุขภาพ ผู้ป่วยควรหาโอกาสชมการแสดงดนตรีสัปดาห์ละครั้ง ทุกวันหลังอาหารเย็นเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเต้นรำ ร้องเพลง เป็นต้น
6. กายบำบัด | ออกกำลังกายเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
สนับสนุนให้ผู้ป่วยได้ทำกิจกรรมออกกำลังกายแบบแอโรบิค (อาทิ การเดินเร็ว การวิ่ง ว่ายน้ำ กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก ถีบจักรยาน เต้นรำ เป็นต้น) ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบที่ต้องใช้อากาศหรือออกซิเจน หรือก็คือต้องหายใจในขณะที่กำลังออกกำลังกายเพื่อนำเอาออกซิเจนไปเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญ รวมถึงการฝึกชี่กง เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพร่างกาย โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
ไม่กี่ปีมานี้ มีหลักฐานอย่างชัดเจนว่า นอกเหนือจากการรักษาแผนหลัก การรับออกซิเจนก็ให้ผลต่อการรักษามะเร็งอย่างชัดเจน
7. ฟื้นฟูสุขภาพ | ผ่อนคลายอารมณ์ อบรมพัฒนา
เติมคุณค่าที่แท้จริงให้กับชีวิต โดย
8. มีเป้าหมาย | แสวงหาหนทางตอบแทนสังคม
กำหนดเป้าหมาย สร้างแรงจูงใจ ตลอดจนชี้นำ ให้ผู้ป่วยมะเร็งได้แสวงหาคุณค่าของชีวิต ตัวอย่างเช่น ตั้งแต่ปี 2010 องค์กรของ ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว ทำโครงการริบบิ้นส่งรัก (Color ribbon-pass love) ทุกปีได้ยกย่องคน 100 คน เป็นอาสาสมัครริบบิ้น ทุกคนเป็นผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง กระตือรือร้นที่จะอุทิศตนเพื่อสังคม ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความรักนั้นได้ค้นพบคุณค่าที่แท้จริงของตนเอง มองโลกในแง่บวก ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ
ศาสตราจารย์ หวัง เจิ้น กั๋ว
ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ โรงพยาบาลมะเร็งเจิ้นกั๋ว ปักกิ่ง
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาฉางไป๋ซาน มณฑลจี๋หลิน สาธารณรัฐประชาชนจีน
มีผลงานวิจัยสมุนไพรจีนโดดเด่น จนคว้าหลายรางวัลทั้งในและต่างประเทศ
โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110