1. ออกกำลังกาย เป็นการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงมะเร็งซึ่งมีหลากหลาย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องทำให้ร่างกายแข็งแรงโดยการออกกำลังกายมีหลักการหลายอย่างได้แก่

• เพิ่มความแข็งแรงของหัวใจและปอด อาทิ แอโรบิค เต้นรำ
• เพิ่มความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อ อาทิ การยกน้ำหนัก วิดพื้น
• เพิ่มการทรงตัว เพราะหากการทรงตัวไม่ดี เมื่ออายุมากขึ้นก็หกล้มได้ง่าย การออกกำลังเพิ่มการทรงตัว อาทิ ยิมนาสติก แอโร่บ็อกซิ่ง
• ออกกำลังกายเพิ่มความไว
• เพิ่มการยืดเหยียดเพราะเมื่ออายุมากตัวจะตึงเส้นจะตีบปวดเมื่อยตามตัว การออกกำลังเพิ่มการยืดเหยียด เช่น โยคะ

2. อาหาร ต้องรับประทานให้ถูกต้องแนะนำให้ใช้สูตร 2:1:1

โดยแบ่งจานเป็น 4 ส่วนเท่ากัน 2 ส่วนเป็นจำพวกผักต่างๆ เลือกที่ปลอดสารพิษ อีก 1 ส่วนเป็นข้าว แป้ง อีก 1 ส่วนที่เหลือเป็นโปรตีนคุณภาพสูง เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ หรือถั่ว  แล้วรับประทานอิ่มเพียง 80% ควรต้องหยุด เพราะต่อมตอบสนองการอิ่มของร่างกายนั้นตอบสนองช้า ถ้ารอจนอิ่ม 100% เราอาจอิ่มจนพุงกางแล้ว

3. รอบเอว ตัวเลขรอบเอวสำหรับคนไทย คือ อย่าเกิน36 นิ้ว ถ้าเกินอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 เท่าอย่าให้ลงพุง เพราะลงพุงแล้วจะมีไขมันสะสมมาก โอกาสเป็นโรคหัวใจเส้นเลือดอุดตันเพิ่มขึ้น

4. อุจจาระ ถ้ามีการขับถ่ายอุจจาระ ขับของเสียทุกวันอย่างดีสุขภาพจะดีขึ้น ควรใช้วิธีดีท็อกซ์ธรรมชาติจากปากถึงทวาร โดยการรับประทานผักผลไม้มากๆ หลีกเลี่ยงอาหารหมักดองอาหารปิ้งย่าง

5. อารมณ์ ทำจิตใจให้ดี อาจด้วยวิธีการออกกำลังกาย เล่นดนตรี ร้องเพลง คลายความเครียด สวดมนต์ช่วยได้ดี เพราะการสวดมนต์ช้าๆ ทำให้เรามีสมาธิ จะกระตุ้นเส้นประสาทบริเวณช่องปากส่งสัญญาณไปสู่สมองต่อมไฮโปทาลามัส ทำให้จิตใจสงบได้

6. เอนกาย นอนหลับพักผ่อนเวลานอนที่ดีที่สุด คือ นอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงตี 5-6 โมงเช้า การนอนอย่างถูกต้องช่วยให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนมากระตุ้นซ่อมแซมร่างกายให้แข็งแรง และชะลอวัย หลักการเหล่านี้ผมใช้กับตัวเองและแนะนำคนไข้ด้วย แม้พูดง่ายทำยาก แต่ถ้าเราไม่เริ่มต้นสุขภาพเราก็จะไม่ดี และตอนที่รักษาโรคนั้นยุ่งยากกว่ามาก

ที่มา: การบรรยายในงานนวัตกรรมต้านมะเร็งแบบ สู้ ซ่อม สร้าง