ปรึกษาผลิตภัณฑ์กับเรา

กินอย่างไรเพื่อสู้กับโรคมะเร็ง - เคล็ดลับสู้มะเร้ง

09-May-2016     อ่าน : 3412 คน


 

กินอย่างไรเพื่อสู้กับโรคมะเร็ง - เคล็ดลับสู้มะเร้ง

เมื่อเป็นมะเร็ง การกระวนกระวายใจ เครียด วิตกกังวล ไม่ได้ช่วยให้ตัวโรคนั้นหายไป ซ้ำยังทำให้ตัวโรคมะเร็งยิ่งเติบโตและร่างกายก็ทรุดโทรมลงด้วย เราจึงมีเคล็ดไม่ลับสำหรับผู้ป่วยมะเร็งมาแนะนำ เพื่อไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยหลายคนคงเคยได้ยินถึงข้อมูลที่ว่า มะเร็งชอบความเป็นกรด ซึ่งอาหารที่มีสภาพความเป็นกรดซึ่งผู้ป่วยมะเร็งควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ 

1. น้ำตาลทรายขาว

น้ำตาลทรายขาวมีสภาวะความเป็นกรด ซึ่งมะเร็งจะยิ่งมีการเจริญเติบโตขึ้นจากสภาพความเป็นกรด โดยมะเร็งจะใช้การย่อยสลายกลูโคสในการเจริญเติบโตของมะเร็ง ซึ่งน้ำตาลจะดูดซึมเข้าไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งให้เจริญเติบโตได้ง่ายที่สุด แม้แต่น้ำตาลจากผลไม้หวานก็มีการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ลอส แองเจิลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถทำให้เซลล์มะเร็งโตได้เช่นกัน ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการเติมความหวานด้วยน้ำตาลทรายขาว แต่หันมาใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง และใช้ในปริมาณที่น้อย 

2. นม

ควรเปลี่ยนจากการดื่มนมวัว นมจากสัตว์มาเป็นนมที่มาจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้แทน เพราะในถั่วเหลืองมีโปรตีนจากพืชที่มีคุณภาพดี ประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิด อาทิ แคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เซเลเนียม วิตามิน A,E,B1,B2

กรดอมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย หลายชนิดและธาตุเหล็กที่มีมากกว่านมถึง 1.6 เท่า แต่การดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะเช่นกัน มีผลวิจัยพบว่า การดื่มน้ำเต้าหู้ที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยในถั่วเหลืองจะมีสารที่เรียกว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งสารดังกล่าวจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อจะทำให้เป็นหมัน รวมทั้งสามารถทำให้เกิดความผิดปกติที่เต้านมได้อีกด้วย 

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่ตรวจความอ่อนไหวต่อฮอร์โมน (ER, PR) แล้วเป็นบวก ซึ่งหมายถึง ฮอร์โมนมีส่วนกระตุ้นมะเร็งเต้านม เนื่องจากถั่วเหลืองมีงานวิจัยพบว่ามีฤทธิ์คล้ายคลึงฮอร์โมนเพศหญิง ดังนั้นควรรับประทานถั่วเหลืองในปริมาณที่เหมาะสม โดยสามารถรับประทานนมถั่วเหลือง (น้ำเต้าหู้) ได้วันละ 1 แก้ว 

 

3. ผักและผลไม้

ผักและผลไม้มีสภาวะความเป็นด่าง ควรรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละมื้อประมาณ 80% ของปริมาณอาหารทั้งหมด โดยเฉพาะผักใบเขียวและผักในตระกูลกระหล่ำทั้งหลาย เพราะสารสีเขียวในผักอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ  มีสารสำคัญหลายชนิด เช่น suiforaphane และสาร isothiocyanate ซึ่งช่วยขับพิษสารเคมี สาร indole สามารถจับสารก่อมะเร็ง ขับสารเคมีและรักษาสมดุลของฮอร์โมนเอสโตรเจน สาร giucosinolate ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและยับยั้งการเจริญของเนื้องอก ทั้งนี้สามารถนำผักหรือผลไม้มาปั่นหรือคั้นเอาแต่น้ำเพื่อดื่มก็ได้ น้ำผักและน้ำผลไม้จะให้เอนไซม์ที่ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ก่อนการรับประทานผักและผลไม้ควรล้างทำความสะอาดให้สะอาด หรือล้างด้วยด่างทับทิม เกลือ เพื่อชะล้างสารกำจัดศัตรูพืชที่อาจมีการตกค้างให้หมดไป

4. ดื่มชาเขียว

ชาเขียวมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิด แต่วันนี้เราจะพูดถึงสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่เรียกว่า แคททีชิน (catechins) แคททีชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีงานวิจัยชี้ว่า สารต่างๆในชาเขียวสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ 

5. น้ำสะอาด

การดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดผ่านการกรองส่งผลดีต่อร่างกายของผู้ป่วย เพราะน้ำมีส่วนช่วยในการลำเลียงสารอาหาร กำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ผลการวิจัยของแพทย์ชาวญี่ปุ่น Yoshitaka Ohno ได้กล่าวว่า น้ำที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาโรคมะเร็ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเต้นชีพจรแห่งเมืองหนานจิงได้กล่าวเตือนอีกว่า หากเราปรารถนาที่จะให้น้ำเป็นตัวป้องกันและรักษามะเร็ง เราจำเป็นต้องให้ร่างกายได้รับน้ำที่มีคุณภาพเพียงพอ เพื่อขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และยังสามารถรักษาสมดุลความเป็นด่างของร่างกายได้อีกด้วย

เลี่ยงเนื้อสัตว์ย่อยยาก

เนื้อสัตว์เป็นอาหารที่ย่อยยาก เนื้อสัตว์ต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก เมื่อเอนไซม์ในการย่อยไม่เพียงพอ ทำให้เนื้อสัตว์ไม่สามารถย่อยได้หมด ส่งผลให้เกิดการตกค้างในลำไส้ และกลายเป็นสารพิษตกค้างในร่างกาย โดยควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากให้น้อยลง เพราะเซลล์มะเร็งมีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะคอยป้องกัน การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น

ควบคุมอารมณ์และมองโลกในแง่บวก

ความเครียด ความโกรธ ความกังวล ความเศร้า อารมณ์ทั้งหลายนี้จะส่งผลให้ร่างกายมีสภาพความเป็นกรด ความเป็นกรดคือสิ่งที่มะเร็งชอบ ดังนั้นเราควรทำใจใหสบาย ไม่เครียด ไม่กังวล หาแนวทางที่จะช่วยให้เราคลายความกังวล เช่น การสวดมนต์ การเล่นโยคะ การนั่งสมาธิ การอ่านหนังสือ หรือการดูหนังตลก เพื่อทำให้เรารู้สึกสนุก ร่างกายของเราก็จะเกิดความผ่อนคลายและอยู่ในสภาวะสมดุล

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มออกซิเจนเข้าไปในร่างกาย  เซลล์มะเร็งจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจน การหายใจเข้าลึกๆ-หายใจออกช้าๆ เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในเซลล์ และมีส่วนเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ดี มะเร็งไม่ได้น่ากลัว สิ่งที่น่ากลัวคือใจของเรามากกว่า เพราะหากเราไม่ยอมแพ้ต่อมะเร็ง ยิ้มสู้และยอมรับ พร้อมจะเรียนรู้และสู้กับมัน เชื่อว่ามะเร็งก็จะสามารถหายไปจากชีวิตของเราได้ 

 
 
 
ปรึกษาผลิตภัณฑ์

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง


มะเร็งกับอาหาร

มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับการดูแล

บริษัท เฟยดา จำกัด

โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

อ่านต่อ >>

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาน้ำเทียนเซียน

เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส

นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค

ติดต่อเรา

02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.