22-Dec-2015 อ่าน : 3470 คน
โสม สมุนไพรที่หลายคนคุ้นหู เพราะโสมได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งสมุนไพร ในตำราของประเทศแถบตะวันออกเชื่อว่าโสมเป็นยาครอบจักรวาล ด้วยสรรพคุณที่ช่วยปรับร่างกายให้สมดุล ทำให้โสมกลายเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมานานกว่า 2,000 ปี
โสมมีหลายชนิด และหลายชื่อเรียก อาทิ โสมคน โสมอเมริกา โสมญี่ปุ่น โสมไทย โสมดอกแดง เป็นต้น โดยในภาษาอังกฤษเรียกโสมโดยใช้ คำว่า Gingseng มาจากภาษาจีนว่า เรนเซ็น (Ren Shen) แปลว่า โสมคน สาเหตุที่เรียกว่าโสมคน เพราะมีลักษณะรูปร่างคล้ายคลึงกับคน คือ มีลำตัว มีกิ่งคล้ายแขน ตามตำราจีนกล่าวไว้ว่า ยิ่งโสมมีลักษณะคล้างคลึงกับมนุษย์มากเท่าไหร่ ก็แสดงว่าโสมนั้นมีคุณค่าและราคาสูงมากเท่านั้น
โสมจัดเป็นสมุนไพรที่หายาก โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นเรื่องยากยิ่ง ปัจจุบันจึงมีการเพาะโสมขึ้น แต่กระนั้นกว่าจะเพาะโสมให้ออกมาเป็นรากสมบูรณ์ได้ ก็มีความยุ่งยากยิ่ง เพราะโสมปลูกยาก โตช้า (ต้องใช้เวลาเพาะโสมประมาณ 6-7 ปี) ดูแลยาก มีขั้นตอนซับซ้อน นอกจากนี้ การเพาะโสมให้ได้คุณภาพที่ดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศที่เหมาะสม โดยโสมมักเจริญเติบโตได้ดีในที่มีอากาศหนาว บริเวณเส้นรุ้งที่ 22-48 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 85-140 องศาตะวันออก ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวมไปถึง แถบเส้นรุ้งที่ 70-79 องศาตะวันตก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ด้วยภูมิประเทศและถิ่นการเพาะที่ต่างกัน ทำให้โสมมีหลายพันธ์ และมีสรรพคุณหรือคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป
โสมชนิดนี้มีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า Panax ginseng C.AMeyer คำว่า Panax แปลว่า รักษาได้สารพัดโรค โสมชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งประเทศจีนถือเป็นจุดต้นกำเนิดของโสมและเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้โสมเติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ก็มีการนำมาศึกษาทดลองเพาะยังประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นจนสำเร็จในเชิงการค้า โดยโสมจีนจะต้องอยู่ในบริเวณเส้นรุ้งที่ 22-48 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 85-140 องศาตะวันออก ได้แก่ ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น โดยในประเทศจีนมักอยู่ในมณฑลยูนนาน มณฑลกวางสี และมณฑลจี๋หลิน
โสมชนิดนี้มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Panax quinquefolium L. เป็นไม้ป่าในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา พบครั้งแรกที่ประเทศแคนาดา
สารที่พบในรากโสมมีหลายชนิด สารสำคัญ ได้แก่ สารจินซีโนไซด์ ซึ่งแต่ละสายพันธ์มีองค์ประกอบของสาร จินซีโนไซด์มากกว่า 30 ชนิด โดยมีอยู่ 8 ชนิด ที่สำคัญอันดับต้นๆ คือ จินซีโนไซด์ Rb1, Rb2, Rc, Rd, Re, Rf, Rg1 และ Rg2 โดยชนิดที่พบมากที่สุด คือ Rb1, Rb2, Re, Rg1 พบว่าโสมอเมริกันจะมีปริมาณสารจินซีโนไซด์ต่ำกว่าในโสมคนหรือโสมจีน
1. มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระในโสมช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ โดยอนุมูลอิสระจะทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ให้เสื่อมลง แต่โสมสามารถเข้าไปทำลายอนุมูลอิสระ ช่วยให้เนื้อเยื่อเสื่อมสภาพช้าลง ทำให้ร่างกายคงความสดใส
2. มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
สารไบโอแอกทีฟในโสม ป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติไปเป็นเซลล์มะเร็ง หรือเนื้องอก โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหารและรังไข่
นอกจากนี้ การรับประทานโสมจีนเป็นเวลานาน สามารถลดภาวการณ์ก่อตัวของเซลล์มะเร็งตับลงได้ ด้วยฤทธิ์ต้านสารอัลฟาท็อก ซินบีและยูรีเทน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรงมะเร็งตับ อย่างไรก็ตาม โสมไม่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งที่เกิดจากการดื่มสุราหรือสาเหตุอื่นได้
โสมช่วยลดภาวการณ์เกิดมะเร็งบางชนิด ได้แก่ มะเร็งริมฝีปาก ช่องปากและคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ โสมช่วยลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการข้างเคียงในผู้ที่ได้รับการฉายรังสี
3. มีฤทธิ์บำรุงกำลัง
โสมมีคุณสมบัติต่อต้านความเมื่อยล้าของร่างกาย สารสกัดจากโสมจะช่วยให้เซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ร่างกายมีกระบวนการเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น สารสกัดจากโสมช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับคืนสู่สภาพปกติรวดเร็วยิ่งขึ้น ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยช้าลง มีความอดทนทำงานได้ดีขึ้น
4. มีฤทธิ์ต่อสมรรถภาพทางเพศ
เมื่อร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์สมรรถภาพทางเพศที่สมบูรณ์ก็ตามมา มีงานวิจัยในผู้ป่วยที่มีปัญหาองคชาติไม่แข็งตัว (Erectile dysfunction) 45 ราย เข้าร่วมวิจัย โดยรับประทานโสมจีน ปริมาณ 900 มิลลิกรัม 3 ครั้ง ต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน ผลปรากฏว่า ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น
5. มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
การวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่า โสมสามารถลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลองปกติและสัตว์ที่เป็นเบาหวานได้ โดยโสมทำให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาได้ดี ช่วยป้องกันอาการชาตามนิ้วมือและปลายเท้า การเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้ สารจินซีโนไซด์ในโสมยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน จึงช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้
6. มีฤทธิ์ต่อการไหลเวียนของเลือดและระบบหายใจ
โสมรักษาความดันโลหิตสูง ลดภาวะเส้นเลือดแข็งตัว และลดการจับตัวของเกล็ดเลือดในหลอดเลือด ช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรเป็นปกติ
7. มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท
สารสกัดจากโสมช่วยลดความเครียดจากสาเหตุที่มีความร้อน หรือความเย็นเข้ามาเป็นตัวกระตุ้น จากการทดลองในคนโดยให้กินโสมคนละ 1.2 กรัม พบว่า ช่วยลดความเครียดลงได้ แต่การกินโสมเพื่อลดอาการเครียดต้องกินด้วยความระมัดระวัง เพราะโสมมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง หากใช้ในปริมาณน้อยจะมีฤทธิ์กระตุ้น แต่หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปจะมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางได้
เทือกเขาฉางไป๋ซานถือเป็นภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ สวยงาม จนได้รับสมญานามมากมาย บ้างก็ว่าเป็นแดนสวรรค์ของมนุษย์ บ้างก็ว่าเป็นแดนเนรมิต ด้วยความสมบูรณ์ประกอบกับความสวยงาม เทือกเขาฉางไป๋ซาน จึงถูกยกให้เป็นมรดกของโลก เป็นภูเขาไฟที่หลับไหลมานานถึง 300 ปี สภาพภูมิประเทศที่เคยเป็นภูเขาไฟ ส่งผลให้เหล่าบรรดาแร่ธาตุต่างๆกระจายครอบคลุมไปตามพื้นที่ภูเขาไฟลูกนี้ แร่ธาตุที่พบในดินบริเวณภูเขา อาทิ เซเลเนียม เจอมาเนียม และแมงกานีส เป็นต้น ดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ประกอบกับภูมิอากาศและลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะสม นี้เองจึงเป็น แหล่งกำเนิดสมุนไพรจีนชั้นดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
• มลพิษทางอากาศกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปอด: สาเหตุและการป้องกัน
• การใช้ชีวิตอยู่กับมะเร็งอย่างมีความสุข
• ข่าวดีเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง! ทางเลือก เพิ่มทางรอด
Tag ที่เกี่ยวข้อง
มะเร็ง ต้านมะเร็ง สมุนไพรโดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110