ปรึกษาผลิตภัณฑ์กับเรา

5 สัญญาณเตือน "มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก" ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

21-Dec-2015     อ่าน : 12349 คน


   

5 สัญญาณเตือน "มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก" ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ถือเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย พบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง มักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โรคนี้มีความร้ายแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ ทำความเข้าใจ 5 สัญญาณเตือน อาการ สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง การวินิจฉัย และแนวทางการรักษา

1. ท้องผูกเป็นประจำ: อาการท้องผูกเรื้อรัง เป็นเวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสียสลับท้องผูก ปวดท้องน้อย

2. อุจจาระผิดปกติ: ลักษณะของอุจจาระที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น อุจจาระมีขนาดเล็กลง เป็นแท่ง หรือมีเมือกปน อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่

3. ปวดท้องน้อย: อาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องผูก ท้องเสีย อุจจาระผิดปกติ

4. เลือดปนในอุจจาระ: การพบเห็นเลือดสด หรือเลือดสีดำปนในอุจจาระ อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่

5. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ: การสูญเสียน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน อาจเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่

สาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

สาเหตุที่แน่ชัดของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค ได้แก่

  • อายุ: มักพบในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • พันธุกรรม: บุคคลที่มีญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าคนทั่วไป
  • พฤติกรรมการกิน: การทานอาหารที่มีไขมันสูง เนื้อแดงแปรรูป และใยอาหารน้อย
  • การสูบบุหรี่: สารเคมีในควันบุหรี่ เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์มาก เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • โรคอ้วน: บุคคลที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือภาวะอ้วน มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนทั่วไป
  • โรคประจำตัว: ผู้ป่วยโรค Crohn's disease หรือ colitis ulcerosa เรื้อรัง มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนทั่วไป

การวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

แพทย์จะวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักโดยอาศัยวิธีดังต่อไปนี้

1. ซักประวัติ: แพทย์จะซักประวัติสุขภาพทั่วไป อาการ ปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุ เพศ ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ พฤติกรรมการกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหนักตัว โรคประจำตัว

2. ตรวจร่างกาย: แพทย์จะตรวจร่างกายทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อยเพื่อดูว่ามีก้อนเนื้อหรือความผิดปกติบริเวณนี้หรือไม่ และตรวจต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียง

3. ตรวจอุจจาระ: แพทย์อาจตรวจหาเลือดในอุจจาระ หรือตรวจหา DNA ของมะเร็งในอุจจาระ (FIT test)

4. การตรวจด้วยกล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy): แพทย์จะส่องกล้องขนาดเล็กผ่านท่อทวารหนักเข้าไปในลำไส้ใหญ่เพื่อดูว่ามีรอยแผลหรือก้อนเนื้อผิดปกติในลำไส้ใหญ่หรือไม่ วิธีนี้สามารถตรวจพบมะเร็งได้แม่นยำ

5. การตรวจชิ้นเนื้อ: หากพบรอยแผลหรือก้อนเนื้อผิดปกติจากการตรวจด้วยกล้องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ แพทย์จะเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัยมะเร็งและระบุชนิดของมะเร็ง

6. การตรวจเพิ่มเติม: แพทย์อาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจอัลตราซาวด์ หรือการตรวจ PET Scan เพื่อดูว่ามะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นหรือไม่

ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก: แพทย์จะพิจารณาจัดระยะของมะเร็งขึ้นอยู่กับขนาด ความลึกของการลุกลามของก้อนเนื้อ และการแพร่กระจายของมะเร็ง การจัดระยะจะช่วยแพทย์กำหนดแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

การวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ผู้ป่วยที่สงสัยว่าตนเองเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด

 
ปรึกษาผลิตภัณฑ์

กรุณากรอกแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง


รู้จักโรคมะเร็ง

มะเร็งกับการรักษา

มะเร็งกับการดูแล

บริษัท เฟยดา จำกัด

โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

อ่านต่อ >>

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาน้ำเทียนเซียน

เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส

นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค

ติดต่อเรา

02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110

Copyright © 2020 บริษัท เฟยดา จำกัด. All rights reserved.