25-Jul-2014 อ่าน : 5534 คน
แพทย์แผนปัจจุบันรักษามะเร็งอาจเห็นผลเร็วแต่ผลข้างเคียงมาก แพทย์แผนจีนรักษาแบบองค์รวม ผลช้ากว่าแต่ราบรื่น
มะเร็ง ยังคงเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากในแต่ละปี จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติมะเร็งที่พบกันในเพศชาย 10 อันดับแรกได้แก่
ส่วนเพศหญิงนั้น มะเร็งที่พบมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2563 ทั่วโลกจะมีคนตายด้วยโรคมะเร็งมากกว่า 11 ล้านคน
โรคมะเร็งเป็นโรคที่ใช้เวลานานหลายปีในการก่อให้เกิดโรค ชนิดของโรคมะเร็งในแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน แต่ก็ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กับปัจจัยดังต่อไปนี้ :
ทัศนะแพทย์จีนเห็นว่า ปัจจัยที่ก่อเกิดมะเร็งมีทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายในร่างกาย สรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
การแพทย์แผนจีนถือหลักการรักษาแบบองค์รวม วินิจฉัยแยกแยะโรคตามสภาวะของผู้ป่วย โดยมีเป้าหมายดังนี้ :
หลักการรักษาด้วยยาจีนนั้นแตกต่างจากการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน ยาแผนปัจจุบันมุ่งฆ่าทำลายเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค แต่ยาจีนนั้นมุ่งฆ่าทำลายสิ่งที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังเชื้อโรค ซึ่งก็คือต้นเหตุ(รากเหง้า)ของการเกิดโรค จึงต้องใช้ตำรับยาที่ประกอบด้วยสารสกัดจากตัวยาจีนหลากหลายชนิด แม้ตัวยาจีนบางชนิดอาจมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง แต่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งแล้ว ไม่เพียงแต่ต้านมะเร็งอย่างเดียว ยังต้องคำนึงถึงสภาพโดยรวมทั่วร่างกาย ต้องเสริมปรับอวัยวะที่อ่อนแอในร่างกายไม่ว่าจะเป็นตับ ไต ม้าม กระเพาะอาหาร ต้องกระตุ้นการไหลเวียนของพลังและเลือด ขับร้อนถอนพิษต่างๆออกจากร่างกาย เพื่อยกระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ซึ่งบทบาทเหล่านี้ ตัวยาเพียงชนิดเดียวไม่อาจครอบคลุมได้ จึงต้องใช้ยาตำรับเท่านั้น
สำหรับประเทศไทย ตำรับยาน้ำสมุนไพรจีนที่แนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งใช้ควบคู่กับการรักษาวิธีหลักนั้น ได้ผ่านการวิจัยทดลองจากทีมแพทย์ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันซึ่งเป็นโรงพยายาลอันดับหนึ่งของไต้หวัน ก่อนหน้านี้ได้มีการทดลองยาตำรับนี้กับสัตว์ทดลองมาแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ หัวข้อในการทดลองครั้งนี้เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาจีนตำรับนี้ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจาย การทดลองเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009- เดือนมิถุนายน 2011 รวม 2 ปี ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการทดลอง รวม 30 รายล้วนเป็นมะเร็งเต้านมระยะ 4 ซึ่งมะเร็งได้แพร่กระจายไปสู่ ปอด ตับ สมอง และกระดูกแล้ว ส่วนใหญ่ได้ผ่านการรักษาด้วยแผนหลักจนหมดทุกวิธีไม่ว่าจะผ่าตัด คีโม หรือรังสีรักษา บางตนก็ยังใช้ฮอร์โมนบำบัดด้วย แต่ก็ไม่อาจควบคุมโรคได้ แพทย์ได้ให้ผู้ป่วยทั้งหมดใช้ยาจีนตำรับนี้ต่อเนื่องรวม 6 เดือน แล้วประเมินผลพบว่า คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาการข้างเคียงจากการักษาแผนปัจจุบันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ภูมิคุ้มกันก็ดีขึ้นด้วย ผู้ป่วยรายหนึ่งที่ไม่ได้ผ่าก้อนเนื้อตั้งแต่แรก ก้อนเนื้อไม่ได้โตขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามยาจีนมีผลยับยั้งเซลล์มะเร็งได้แค่ไหน ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่ายาน้ำตำรับนี้มีผลในการยับยั้งเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่มะเร็งสามารถแพร่กระจายหรือกำเริบซ้ำหลังจบกระบวนการรักษาด้วยวิธีหลักแล้ว แต่งานวิจัยยังคงต้องดำเนินต่อไป เพื่อศึกษาว่ายาจีนจะยับยั้งเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็งได้ทุกชนิดหรือไม่
ผู้ป่วยมะเร็งที่รักษาด้วยการผ่าตัด คีโมบำบัดหรือรังสีรักษาจนครบถ้วนแล้ว ยังคงต้องดูแลรักษาสุขภาพของตนเองต่อไป โดยต้องสนใจจากสี่ด้านดังนี้
ประสบการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยที่ได้ใช้ยาจีนควบคู่กับการรักษาแผนปัจจุบัน
ตัวอย่างที่หนึ่ง
คุณเอ (นามสมมติ) เพศหญิง อายุ 42 ปี พบว่าเป็นมะเร็งที่เต้านมขวา เมื่อต้นปี 2557 เนื่องจากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ ยังไม่อาจผ่าตัดได้ แต่ต้องทำคีโมบำบัดก่อน ผู้ป่วยเริ่มใช้ยาจีนก่อนทำคีโมไม่นาน คีโมเข็มแรกและเข็มที่สองผ่านไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อรับเข็มที่ 3 เม็ดเลือดขาวเริ่มตก แต่ยังคงไปทำงาน งานก็เครียดด้วย จึงเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย ทำคีโมต่อไปไม่ได้ หมอจึงได้แนะนำให้เพิ่มยาน้ำอีก 1 หลอดเป็น 4 หลอด และให้สนใจพักผ่อนมากขึ้น
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ไปตรวจเลือด ค่าเลือดดีขึ้น จึงทำคีโมต่อไปได้ โดยไม่มีผลข้างเคียงอีก จึงลดยาน้ำเหลือ 3 หลอดต่อวันเหมือนเดิม ทำคีโมต่อไปจนจบคอร์สโดยไม่สะดุด ปัจจุบันทำคีโมคอร์สที่ 2 อยู่ ค่าเลือดก็ไม่มีปัญหา
ตัวอย่างที่สอง
นายชัย (นามสมมติ) อายุ 65 ปี เมื่อกลางปี 2556 เป็นมะเร็งตับ พบก้อนเนื้อ 1 ซม.ที่ตับและมีประวัติสมรรถภาพตับไม่ปกติ ได้รับการผ่าตัดก้อนเนื้อออกด้วยวิธีหลัก หลังผ่าตัดทางโรงพยาบาลแนะนำให้ฉีดยาบล๊อกเส้นโลหิตที่ตับ แต่ผู้ป่วยปฏิเสธเพราะเห็นว่าตนเองอายุมากแล้ว กลัวจะรับพิษของผลข้างเคียงไม่ได้ ดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงแนะให้ติดตามผลทุก 3 เดือนเพราะยังพบว่ามีจุดเล็กๆที่บริเวณตับ ผู้ป่วยจึงหยุดการรักษาวิธีหลัก พักอยู่ที่บ้าน เริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย น้ำหนักลด ไม่มีเรี่ยวแรง เมื่อปลายปีที่แล้วทราบวามียาจีนที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็งและช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ก็สนใจและเริ่มใช้ยาจีนตำรับนี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อไปพบแพทย์ตามนัด ตรวจไม่พบว่ามีการกระจายไปจุดอื่นๆอีก แต่จุดที่มีอยู่เดิมโตขึ้นเล็กน้อย คุณภาพชีวิตดีขึ้น เจริญอาหาร อาการอ่อนเพลียหายไป ทางโรงพยาบาลจึง
เสนอให้ผ่าตัดจุดที่เห็นในตับออก แต่ผู้ป่วยยังคงปฏิเสธ และกินยาจีนต่อเนื่องต่อไป พบแพทย์ตามนัดทุก 3 เดือน ผลการตรวจเลือดค่า AFP ปกติ จุดที่พบในตับไม่ได้โตขึ้นกว่าเดิมและไม่พบว่ามีการแพร่กระจายไปที่อื่น ปัจจุบันนี้ผู้ป่วยยังคงใช้ยาจีนนี้อย่างต่อเนื่องและสนใจออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วย
ตัวอย่างที่สาม
คุณนวล (นามสมมติ) เพศหญิงอายุ 23 ปี พบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือใต้ไหปลาร้าเมื่ออายุ 18ปี ตกใจและกังวลมาก เนื่องจากก้อนเนื้อใหญ่มากไม่อาจผ่าตัดได้ จึงต้องรักษาด้วยคีโมบำบัดและต่อด้วยรังสีรักษา ผู้ป่วยได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาจีนควบคู่การคีโมบำบัดและการฉายแสง ฉีดคีโมไปได้ 3 เข็ม มีผลข้างเคียงมาก ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน สลับกับท้องเสีย จนทำให้อ่อนเพลีย หน้ามืด โชคดีที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากคุณแม่และญาติมิตร
ได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาจีนควบคู่กับคีโมบำบัด ทำให้พิษจากผลข้างเคียงทุเลาลง สุขภาพฟื้นตัว ทำคีโมต่อไปได้ หลังคีโมเข็มที่ 4 ตรวจ PET SCAN พบว่าก้อนเนื้อเล็กลงจาก 7x10x11 ซม. เหลือ 3x5x6 ซม. ดีใจมากมีกำลังใจมากขึ้น จึงรักษาต่อไปจนจบคอร์สคีโม 16เข็มและรังสีบำบัด 29 ครั้ง พร้อมกับกินยาจีนควบคู่กันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาร่วม 2 ปี ปัจจุบันผ่านมา 5 แล้ว ยังคงใช้ยาจีนเพื่อป้องกันการกำเริบซ้ำโดยลดปริมาณลง มีสุขภาพแข็งแรง ไปพบแพทย์ตามนัด ไม่พบว่ามีการแพร่กระจายของมะเร็ง
จากประสบการณ์จริงของผู้ป่วยทั้งสามท่าน จะเห็นว่ายาจีนสามารถเสริมผลการรักษาด้วยวิธีหลักให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยบรรเทาผลข้างเคียงของการรักษาวิธีหลัก ช่วยยกระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ในระดับที่แน่นอน จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : แพทย์จีนมาลิน ปิยะชินวรรณ
โดยตั้งแต่ปี 1998 บริษัท เฟยดา จำกัด สาขาประจำประเทศไทย เริ่มดำเนินงานนำเข้า และเป็นตัวแทนจำหน่ายสมุนไพรเทียนเซียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
อ่านต่อ >>
ยาน้ำเทียนเซียน
เอ็กซ์แทร็คท์ พลัส
นิทรา เฮอร์เบิล ฟุทโซค
02-264-2217,02-264-2218,
02-264-2219
เวลาทำการ 08.30 น.-17.00 น.
[email protected]
213/5 อาคารอโศกทาวเวอร์ ชั้น 6 สุขุมวิท 21 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพ 10110