เคมีบำบัด: อาวุธทรงพลังต่อสู้มะเร็ง

02-Mar-2010 อ่าน : 32442 คน

เคมีบำบัด: อาวุธทรงพลังต่อสู้มะเร็ง

มะเร็งเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนมากมาย การรักษาด้วยเคมีบำบัดจึงเปรียบเสมือนอาวุธทรงพลังที่ช่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเคมีบำบัด วิธีการให้ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมตัวรับมือกับการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคมีบำบัดคืออะไร?

เคมีบำบัดเป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่ใช้ยาเข้าต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ยาเหล่านี้ทำงานโดยยับยั้งการเจริญเติบโตและทำลายเซลล์มะเร็ง

โดยทั่วไป ยาเคมีบำบัดจะออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย หมายความว่ายาจะไหลเวียนไปตามกระแสเลือดและเข้าถึงเซลล์มะเร็งในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แพทย์อาจใช้ยาเคมีบำบัดเพียงชนิดเดียว หรือใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย

วิธีการให้เคมีบำบัด

เคมีบำบัดสามารถให้ได้หลายวิธี ดังนี้

ทางหลอดเลือดดำ: วิธีนี้เป็นวิธีที่พบบ่อยที่สุด แพทย์จะทำการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำที่แขนหรือหน้าอก และฉีดยาเข้าสู่กระแสเลือด
ทางปาก: ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาเคมีบำบัดในรูปแบบของยาเม็ดหรือแคปซูล
ทางกล้ามเนื้อ: แพทย์จะฉีดยาเข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกหรือก้น
ทางช่องทวารหนัก: ยาเคมีบำบัดสามารถให้ในรูปแบบของยาเหน็บหรือยาซัพพอร์ตซิตอรี่
โดยตรงเข้าสู่เนื้องอก: แพทย์อาจใช้เข็มฉีดยาหรือใส่ท่อสวนเพื่อส่งยาเคมีบำบัดโดยตรงเข้าสู่เนื้องอก

ผลข้างเคียงของเคมีบำบัด

เคมีบำบัดอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายผู้ป่วย ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่

คลื่นไส้อาเจียน: แพทย์อาจสั่งยาแก้คลื่นไส้อาเจียนให้ผู้ป่วย
ผมร่วง: ผมร่วงเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยของเคมีบำบัด แต่ผมจะกลับขึ้นมาใหม่หลังสิ้นสุดการรักษา
แผลในปาก: แผลในปากอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดและทานอาหารลำบาก แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลช่องปากเพื่อบรรเทาอาการ
ติดเชื้อ: ยาเคมีบำบัดอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ผู้ป่วยจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย แพทย์จะแนะนำวิธีป้องกันการติดเชื้อ
เหนื่อยล้า: ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย แพทย์จะแนะนำวิธีการพักผ่อนและดูแลตัวเอง
สูญเสียความอยากอาหาร: ผู้ป่วยอาจเบื่ออาหาร แพทย์จะแนะนำวิธีการทานอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ

การเตรียมตัวรับมือกับเคมีบำบัด

ก่อนเริ่มการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการดูแลตัวเอง แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เช่น ทานอาหารอ่อนๆ ทานอาหารบ่อยๆ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และรักษาความสะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง

นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมที่ทานเป็นประจำ

ผลลัพธ์ของเคมีบำบัด

ผลลัพธ์ของเคมีบำบัดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และการตอบสนองต่อยาเคมีบำบัด