ฉายรังสีภายใน: อาวุธร้ายสู่มะเร็ง

25-Oct-2011 อ่าน : 6207 คน

ฉายรังสีภายใน: อาวุธร้ายสู่มะเร็ง

การฉายรังสีภายใน หรือที่เรียกว่า การรักษาระยะใกล้ (Brachytherapy) เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้แหล่งกำเนิดรังสีที่มีขนาดเล็ก ฝังไว้ใกล้กับหรือภายในก้อนเนื้อร้าย เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง บทความนี้ พาไปรู้จักวิธีการ ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงของการฉายรังสีภายใน

วิธีการฉายรังสีภายใน

การฉายรังสีภายใน มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และขนาดของก้อนเนื้อร้าย ดังนี้

การฝังแร่แบบถาวร: ฝังแร่ที่มีกัมมันตภาพรังสี ไว้ภายในก้อนเนื้อร้าย โดยแร่จะค่อยๆ ปล่อยรังสีออกมาทำลายเซลล์มะเร็ง จนหมดพลังงาน เหมาะสำหรับการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งตา
การฝังแร่แบบชั่วคราว: ฝังแร่ที่มีกัมมันตภาพรังสี ไว้ภายในก้อนเนื้อร้ายเป็นระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1-2 อาทิตย์ จากนั้นจึงนำแร่ออก เหมาะสำหรับการรักษามะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งถุงน้ำดี
การฉายรังสีแบบหลังช่องคลอด: สอดเครื่องมือขนาดเล็กผ่านช่องคลอด ไปยังตำแหน่งของก้อนเนื้อร้าย จากนั้นจึงฉายรังสี เหมาะสำหรับการรักษามะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งทวารหนัก

ข้อดีของการฉายรังสีภายใน

ตรงเป้าหมาย: รังสีจะทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง โดยไม่ส่งผลต่อเซลล์ปกติบริเวณรอบข้างมากนัก
มีประสิทธิภาพ: สามารถรักษามะเร็งบางชนิดได้หายขาด
ผลข้างเคียงน้อย: เมื่อเทียบกับวิธีการรักษาอื่นๆ เช่น การผ่าตัด เคมีบำบัด
ระยะเวลาการรักษาสั้น: ขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และขนาดของก้อนเนื้อร้าย โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์

ข้อเสียของการฉายรังสีภายใน

ความเจ็บปวด: อาจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อนเนื้อร้าย
การติดเชื้อ: อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฝังแร่
ผลข้างเคียงระยะยาว: อาจเกิดผลข้างเคียงระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ หรือลำไส้

ผลข้างเคียงของการฉายรังสีภายใน

ผลข้างเคียงของการฉายรังสีภายใน ขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และขนาดของก้อนเนื้อร้าย โดยทั่วไป ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่

ความเมื่อยล้า
เบื่ออาหาร
คลื่นไส้
อาเจียน
ท้องเสีย
ถ่ายเป็นเลือด
ปัสสาวะแสบขัด
ผิวหนังอักเสบ

การฉายรังสีภายใน เป็นวิธีการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพ ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และขนาดของก้อนเนื้อร้าย ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง และตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง