ครั้งแรกกับการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ของสมุนไพรจีน

01-Aug-2024 อ่าน : 93 คน

ครั้งแรกกับการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ของสมุนไพรจีน

ดร. ซุน หลิง เซี่ยน กล่าวว่า ผลการทดลองในคลินิกมนุษย์ของยาน้ำเทียนเซียนที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันในครั้งนี้ก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวอย่างมาก ผมคิดว่ามีอยู่ 3 เหตุผลด้วยกัน

ข้อ 1 : โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เป็นโรงพยาบาล อันดับหนึ่งของไต้หวัน เป็นโรงพยาบาลของรัฐฯ นักเรียนเก่งๆ ทั้งหลายหวังจะได้ทำงานที่นี่ ดังนั้นโรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ในอันดับสูงมากของไต้หวัน
ข้อ 2 : กว่า 115 ปี ที่ผ่านมาโรงพยาบาลไม่เคยวิจัยเกี่ยวกับยาจีนมาก่อนยิ่งไม่เคยทดลองยาจีนในคลินิกมนุษย์มาก่อน แต่ยาน้ำเทียนเซียนได้ทำลายบันทึกในประวัติศาสตร์ 115 ปีของโรงพยาบาลนี่เป็นครั้งแรกที่มีการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ของยาจีน ซึ่งผมคิดว่าพิเศษมาก
ข้อ 3 : ตัวยาน้ำเทียนเซียนมีความโดดเด่นในไต้หวันอยู่แล้ว คนจำนวนมากได้รับรู้รายงานที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งที่เกี่ยวกับยาน้ำเทียนเซียนล้วนแต่ประหลาดใจนึกไม่ถึงว่าครั้งนี้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันได้ทดลองยาน้ำเทียนเซียนทางคลินิกอย่างเป็นประวัติกาล ผลการทดลองก็ประสบความสำเร็จมากยังได้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียง

ดังนั้นจากรายงานผลออกมาแล้วจึงเกิดกระแสตื่นตัวอย่างมากดังเหตุผลข้างต้น 3 ข้อ ในความคิดเห็นของผมครับ ครั้งนี้การทอดลองคลินิกในมนุษย์ของยาน้ำเทียนเซียนที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เป็นโรงพยาบาลได้ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแพร่กระจ่าย ระยะสุดท้ายเป็นหลัก ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่สามารถรักษาตามวิธีหลักได้แล้ว

พูดอีกในหนึ่งก็คือ ผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนรักษาอาการตามระบบมาแล้วทั้ง ผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายแสง การรักษามุ่งเป้า โฮโมนบำบัด แต่ผลตอบสนองไม่ดี อาการป่วยแย่ลงมากๆ การยากรณ์โรคไม่ดีขึ้นจนผู้ป่วยไม่ยอมรับการรักษาใดๆ อีก ผู้ป่วยเหล่านี้จึงเข้าข่ายการทดลองคลินิกของยาน้ำเทียนเซียน อาจพูดได้ว่าผู้ป่วยที่ถูกรับเข้าทดลองยาน้ำเทียนเซียนนั้นไม่มีวิธีการรักษาที่ดีอื่นๆ แล้ว พูดให้ถูกต้องยิ่งขึ้นก็คือเป็นผู้ป่วยที่ต้องทบทวนเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตภายใต้เงื่อนไขนี้ในระยะเวลาอันสั้นประมาณ 18 เดือน

ยาน้ำเทียนเซียนสามารถรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเข้าโครงการทั้งหมด 44 คน ผ่านเกณฑ์การทดลองคลินิกอย่างถูกต้องทั้ง ผู้ป่วย 44 คน ผ่านการสุ่มมา 30 คน เป็นกลุ่มทดลองใช้ยาน้ำเทียนเซียน นอกนั้น 14 คน ใช้ยาหลอก ในผู้ป่วย 30 คน ได้ให้ใช้ยาน้ำเทียนเซียน 6 เดือน โดยใช้ยาวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 20 CC หลังจากผ่านไป 6 เดือน สถิติของเราพบว่าในกลุ่มใช้ยา 30 คน มี 20 กว่าคนใช้ยาได้เกิน 4 เดือน แต่กลุ่มที่ใช้ยาหลอก 14 คน ไม่มีผู้ป่วยใช้ยาได้เกิน 2 เดือน แม้แต่คนเดียว แสดงว่าหลังจากผู้ป่วยใช้ยาน้ำเทียนเซียนพวกเขารู้สึกอย่างชัดเจนว่ามีส่วนช่วยได้จึงใช้ต่อเนื่องระยะยาว มาตรฐานที่ใช้ประเมินผลในครั้งนี้มี 2-3 อย่าง

ข้อแรก : มีความเปลี่ยนแปลงทางด้านคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหรือไม่ นี่เป็นตัวชี้วัดหลักโดยวัดความรู้สึกของผู้ป่วยเองแล้วจดบันทึก
ข้อสอง : ตรวจผลเลือดโดยนับจำนวนเซลล์ต่อมน้ำเหลืองโดยสังเกตว่าประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันเปลี่ยนแปลงหรือไม่
ข้อสาม : มีการบันทึกว่าเมื่อใช้ยาแล้วผู้ป่วยมีผลข้างเคียงที่ไม่ดีหรือไม่
ข้อสี : ได้สังเกตข้อแตกต่างของผู้ป่วยก่อนและหลังใช้ยานอกจากนี้ยังประเมินข้อแตกต่างกลุ่มใช้ยาน้ำเทียนเซียนและกลุ่มใช้ยาหลอก หลังจากใช้มาตรฐาน 4 ข้อในการประเมินผลพบว่าผู้ป่วยใน 30 คนที่ใช้ยาน้ำเทียนเซียนมีมากกว่า 20 คน พอใจมากกับคุณภาพชีวิตของตัวเองและเซลล์ภูมิคุ้มกันของพวกเขาดีกว่ากลุ่มใช้ยาหลอกอย่างมากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 0.5-2 กิโลกรัม ขึ้นไปซึ่งถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย การเปรียบเทียบผลก่อนและหลังใช้ยาก็ได้ผลดีเยี่ยมกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอกอย่างชัดเจน

ครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สิ่งที่น่ายินดีมากอีกอย่างก็คือ ตามประวัติการป่วยของกลุ่มใช้ยา 30 คน เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายจึงมี 28 คน ที่ตัดเต้านมแล้วทำให้ไม่สามารถวัดการเปลี่ยนแปลงของก้อนเนื้อได้ แต่ในนี้มี 2 คน ยังไม่ตัดก้อนเนื้อออกหลังจากใช้ยาน้ำเทียนเซียนจึงได้วัดความเปลี่ยนแปลงของก้อนเนื้อผลปรากฏว่าหนึ่งในนี้ก้อนหดเล็กลงเกือบ 50 % ส่วนที่ลามไปต่อมน้ำเหลืองที่คอก็หายไปหมด ส่วนอีกคนหลังจากใช้ยาน้ำเทียนเซียนก็พบว่าก้อนเนื้อคงที่ไม่เติบโตขึ้น ดังนั้นสามารถอธิบายได้ว่ากลุ่มผู้ใช้ยาได้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเพราะผู้ป่วย 2 คน ที่สามารถวัดความเปลี่ยนแปลงของก้อนมะเร็งได้ล้วนได้ผลยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนได้อย่างชัดเจน

กล่าวได้ว่า การทดลองทางคลินิกนี้ได้ผลในระดับสูงมากจุดนี้เรามีความพึงพอใจมากกับผลการทดลองทุกคนล้วนให้ความสนใจมันหมายถึง ยาจีนไม่เพียงแต่ปรับภูมิคุ้มกัน ไม่เพียงแก้ไขคุณภาพชีวิต แต่ในการทดลองคลินิกมีผลการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งอย่างชัดเจนและเป็นการทดลองในมนุษย์ไม่ใช่การทดลองธรรมดาๆ ในสัตว์ทดลอง

เหตุผลสำคัญในการทดลองทางคลินิกในครั้งนี้ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันเลือกทำในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพราะเมือง ไทเปเป็นเมืองที่มีโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุดในโลกและไม่มีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนลง ผลการรักษาของผู้ป่วยส่วนมากก็ไม่ดี ดังนั้นเราจึงหวังว่าจะมีหลักฐานมากขึ้นที่จะแสดงให้เห็นว่าสำหรับมะเร็งเต้านมนั้นยาน้ำเทียนเซียนได้ใช้การทดลองทางคลินิกพิสูจน์แล้ว แต่ในความเป็นจริงยาน้ำเทียนเซียนมีประวัติมามากกว่า 21 ปี แล้วใน 30 กว่าประเทศ จากประสบการณ์อันยาวนานที่เราได้เฝ้าสังเกตการณ์มะเร็งเต้านมนับว่าไม่ใช่จุดเด่นของยาตัวนี้ แต่จุดเด่นของยา คือ มะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร ลิ้น กระเพาะอาหาร มะเร็งในระบบย่อยอาหาร มะเร็งเยื่อบุผิว มะเร็งเหล่านี้ยาน้ำเทียนเซียนยิ่งมีผลเด่นชัด

ประสบการณ์ทางด้านคลินิกที่ผ่านมาพบเห็นเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจากการทดลองในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันในครั้งนี้ ซึ่งยาน้ำเทียนเซียนให้ผลดีมาก เราจึงมีความคิดคาดหวังในแง่ดีว่ายาน้ำเทียนเซียนต่อมะเร็งอื่น หรือมะเร็งระบบย่อยอาหารยิ่งได้ผลดี นอกจากนี้คณะแพทย์จีน มหาวิทยาลัยฮ่องกง ได้ทดลองในเซลล์ก็ยืนยันว่ายาน้ำเทียนเซียนให้ผลดีต่อมะเร็งลำไส้ ซึ่งเราหวังว่าในอนาคตจะมีโอกาสทำการทดลองทางคลินิกในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่ฮ่องกงด้วย

ในประเทศญี่ปุ่นก็มีประสบการณ์จริงของผู้ป่วยจำนวนมากยืนยันและยังมีประสบการณ์ทางคลินิกพบว่าผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร ซึ่งในญี่ปุ่นมีมากเป็นพิเศษพวกเขาใช้ยาน้ำเทียนเซียนได้ผลดี ตอบสนองดีมาก เราสามารถกล่าวได้ว่า ยาน้ำเทียนเซียนไม่เพียงใช้ได้กับมะเร้งเต้านมเท่านั้น แต่จากประสบการณ์หลายปีของเราพบว่า การใช้ยาในทุกๆ มะเร็งรวมกับการรักษาเคมีบำบัด การรักษาแบบบูรณาการ การรักษาแผนโบราณ หรือการรักษาแผนหลักในการลดผลข้างเคียงเคมีบำบัดและรังสีรักษา ด้านปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน การแก้ไขคุณภาพชีวิต

กว่า 20 ปีที่ผ่านมายาน้ำเทียนเซียนมีประสบการณ์จริงของผู้ป่วยมะเร็งอย่างมากมาย เรามุ่งหวังว่าในอนาคตจะมีการทดลองทางคลินิกในมะเร็งหรือมะเร็งชนิดต่างๆ มากขึ้น ตั้งแต่ก่อนเดือน พฤศภาคม ปี 2012 ยาน้ำเทียนเซียนได้รับการบรรจุชื่อลงในสารานุกรมยาและพจนานุกรมยาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกา (NCI) ให้รหัสสำหรับยาน้ำเทียนเซียนเลขที่ 488275 ซึ่งถ้าดูทั้งเอเชียแล้วเราถือเป็นผู้บุกเบิกเพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเอเชียได้รับการบรรจุชื่อลงในสารานุกรมยาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกามาก่อน และครั้งนี้แน่นอนว่าทำให้รู้สึกตื่นเต้น ยิ่งผลการทดลองคลินิกในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันเสียอีก โดยเฉพาะยังไม่เคยเห็นบันทึกใดๆ เกี่ยวกับยาจีนต้านมะเร็งในโรงพยาบาลมะเร็งของอเมริกาในร้านยาแผนปัจจุบัน ยาน้ำเทียนเซียนถือเป็นตัวแรก ผมคิดว่าในอนาคตเกี่ยวกับการรักษาแบบผสมผสานแผนปัจจุบันและแผนจีน พวกเราจะได้มีโอกาสผสานกันกับแพทย์แผนปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ว่าจะใช้ยาจีนผสานกับยาแผนปัจจุบันได้อย่างไร มารักษาแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขอาการของผู้ป่วย เพิ่มคุณภาพชีวิตและยืดอายุของผู้ป่วย การที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกาบรรจุยาน้ำเทียนเซียนในสารนุกรมยาเป็นการเปิดเผยครั้งสำคัญของเราต่อวงการแพทย์แผนปัจจุบัน