สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อได้ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง 2 คน

16-Nov-2023 อ่าน : 892 คน

สู้ด้วยใจต้านภัยมะเร็ง

การไม่โรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ใครบ้างล่ะที่เกิดมาแล้วไม่เจ็บป่วยเลย มีความเป็นไปได้ยากมาก ในสังคมปัจจุบัน ที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ขาดการดูแลจัดสรรสิ่งแวดล้อมที่ดี เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งแวดล้อมก็แย่ลงทุกวัน เราทุกคนต่างต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่แย่ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดิ้นรนในสังคมเทคโนโลยีทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพของตนเอง ความเจ็บป่วยจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกครอบครัว ในสมัยก่อน ปู่ ย่า ตา ยายเรา ใช้ชีวิตแบบพึ่งพาธรรมชาติอยู่กับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษมีน้อยมาก แต่พอมาถึงยุคเรากลับต้องพึ่งพาเทคโนโลยี การใช้ชีวิตที่ต่างจากอดีต ในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษ ทำให้เราละเลยต่อสุขภาพไม่แปลกเลยที่ทุกครอบครัวต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ

โรคต่าง ๆ มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอก ที่ได้แก่ สิ่งแวดล้อมและปัจจัยภายในที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ครอบครัวของดิฉันก็พบเจอกับโรคภัยไข้เจ็บเช่นเดียวกัน และสาเหตุจากการเกิดโรคก็มาจากทั้งสองปัจจัย และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราหาทางต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่เราเผชิญอยู่ เมื่อ 15 ปีก่อนคุณอาของดิฉันตรวจพบเจอมะเร็งที่เต้านมระยะที่ 1 จึงได้ทำการผ่าตัดโดยการตัดเต้านมทิ้งไปทั้ง 2 ข้าง หลังจากนั้นไม่นานก็มาพบมะเร็งที่สมองอีก ทำให้ต้องรับการรักษาด้วยการทำคีโม และทำการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง คุณหมอบอกว่าคุณอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี แต่ครอบครัวเรายังคงหาทางยื้อชีวิตคุณอาต่อไป และแล้วก็มีหนทางนั้นจริง ๆ เพื่อนของคุณพ่อได้แนะนำยาเทียนเซียนให้คุณอาทานเพื่อบำรุงเม็ดเลือดขาว และมีแรงต่อสู้กับเจ้ามะเร็ง จากที่คุณหมอคาดคะเนไว้เพียง 1 ปี คุณอาสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อได้อีกถึง 5 ปี

แต่ครอบครัวเราก็ได้รับข่าวร้ายอีก หลังจากที่คุณอาเสียไปไม่นาน เราก็พบว่าคุณย่าของเราตรวจพบก้อนเนื้อในลำไส้ และพบว่ามีเชื้อมะเร็ง ทำให้เราต้องปิดบังท่านเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ ณ ตอนนั้นคุณย่ามีอายุ 84 ปี คุณหมอบอกว่าเนื่องจากคุณย่ามีอายุมากแล้วจึงไม่สามารถทำการรักษาได้มากนัก นอกจากการตัดลำไส้บริเวณที่พบก้อนเนื้อออกไป ครอบครัวของดิฉันจึงตกลงกันว่าเราจะให้คุณยาทานยาเทียนเซียนเสริม และบอกคุณย่าว่ามันคือยาบำรุงร่างกาย และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ปัจจุบันนี้คุณย่ามีอายุ 94 ปีแล้ว และยังสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ พบเพียงอวัยวะภายนอกบางส่วนของร่างกายที่เสื่อมลงตามกาลเวลา เช่น แขน ขา เป็นต้น ทุกวันนี้คุณย่าทานอาหารได้ปกติ ขับถ่ายมีปัญหาบ้างเล็กน้อย การเดินช้าลง มีการหลงลืมบ้างตามวัย

การได้ดูแลญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ทำให้ดิฉันได้รับรู้ว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ การปรับตัวเฝ้าระวังโรคร้ายต่างๆเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยในปัจจุบันนี้ ดิฉันได้พบเห็นคนรอบตัวไม่ว่าจะเพื่อนสนิทของดิฉันเอง ซึ่งก็เป็นมะเร็งเต้านมเช่นเดียวกับคุณอา แต่ก็สามารถรอดชีวิตมาได้เพราะตรวจพบเจอรวดเร็วและการรักษาทันการ โดยยอมรับในการรักษาและการดูแลตนเอง ถ้าดูแลตนเองดี เราทุกคนก็สามารถเอาชนะมันได้ การยอมรับและ เชื่อในวิธีการรักษาของหมอ ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสใช้ชีวิตได้นานเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเรามีสิ่งที่ช่วยเสริมโอกาส

การมีชีวิตอยู่ต่อ นั่นยิ่งเป็นหนทางที่ดีเพิ่มขึ้นไปอีก

อย่างที่กล่าวมาในตอนต้นไม่มีใคร ไม่มีโรค ดิฉันก็เช่นเดียวกันระหว่างที่ดูแลคุณย่าตัวดิฉันเองก็ตรวจพบเนื้องอกในมดลูกและขนาดของเนื้องอกได้เพิ่มจำนวนและขนาดเพิ่มขึ้น ดิฉันจึงตัดสินใจผ่าตัดมดลูกทิ้ง ผลการตรวจชิ้นเนื้อหลังผ่าตัดพบว่า ไม่มีเชื้อมะเร็ง ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อเกิดเหตุครั้งนี้ ดิฉันไม่ลังเลที่จะทานยาเทียนเซียนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองเลย การได้พบเห็นคนรอบข้าง ตลอดการดำเนินชีวิตในสังคมที่มีภาวะความเสี่ยงรอบตัว ทำให้ดิฉันได้ตระหนักว่าเราหนีโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเราต้องเตรียมรับมือกับมันอย่างสุดความสามารถและถ้ามันมาเยือนเราแล้ว เราก็ต้องสู้กับมันด้วยใจที่เปิดรับหนทางมากมายที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นมันไปให้ได้ ไม่มากก็น้อย

สุดท้ายนี้ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เผชิญกับโรคมะเร็ง ขอให้คิดว่าทุกคนมีโอกาสพบกับมันได้ แต่ก็มีโอกาสที่เราจะป้องกัน และยื้อต่อสู้กับมันได้เช่นกัน ขอให้ทุกคนเปิดใจ ทำความเข้าใจและใส่ใจกับการดูแลตนเอง เพื่อให้ตนเองและคนในครอบครัว มีสุขภาพที่ดี ห่างไกล หรือเผชิญกับโรคที่จะเข้ามาได้ทุกเมื่อ เราทุกคนมีความหวัง ถ้าเราเปิดใจยอมรับสิ่งที่ต่างๆที่จะช่วยรับมือกับโรคมะเร็ง หนทางที่จะดูแลคนที่เรารักในครอบครัวก็คงไม่ยากเกินไป ในสังคมทุกวันนี้

โดย ณัฐกานต์ ทรัพย์ไพศาล