สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อฉันเป็นมะเร็งแล้ว 3 ครั้ง

31-Oct-2023 อ่าน : 650 คน

สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อฉันเป็นมะเร็งแล้ว 3 ครั้ง

ดิฉันชื่อ นางชุติตา อินทิยโกเศศ อายุ 53 ปี ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดิฉันมีลูกชาย 2 คน ที่เป็นกำลังใจสำคัญและบุคคลในครอบครัว ที่ทำให้ดิฉันมีแรงบันดาลใจต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านมและผ่านการรักษามาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2550 และปี 2561 และครั้งนี้ปี 2566 ดิฉันตรวจพบมะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปยังตับและกระดูก กลับมาเป็นครั้งที่ 3

ดิฉันอยากแชร์ประสบการณ์การต่อสู้กับโรคร้ายด้วยหัวใจที่เป็นนักสู้ของดิฉันเองมาแล้ว 2 ครั้ง และปัจจุบันดิฉันกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยและต้องการเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง หรือกับคนในครอบครัวของผู้ป่วย ดิฉันจึงมีความตั้งใจจะเล่าเรื่องราวต่างๆ กับการต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างไร เราจึงจะชนะโรคร้ายและมีชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุขกับปัจจุบัน

การมีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัย ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เรามักจะได้ยินเสมอว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” แต่เราไม่ต้องไปกังวลหรือน้อยใจกับโชคชะตา ที่เราต้องมาพบเจอโรคร้าย ดิฉันใช้วิธีปรับความคิดใหม่และกลับมาคิดในทางบวกว่า “ขอบคุณโรคมะเร็ง” ที่ทำให้เรามีสติ ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งใด ๆ ทำให้เรารู้ว่า ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต และเข้าใจในทางธรรมมากขึ้นว่า ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง และเชื่อว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่และก็ดับไป ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ การเป็นโรคมะเร็งก็เช่นกัน เป็นได้ก็หายได้

สิ่งที่ต้องทำอย่างแรก คือ ตั้งสติ ยอมรับ น้อมรับ ปล่อยวาง ทำใจเราให้เข้มแข็ง ร่างกายเราเค้าจะรู้สึกได้จากใจและความคิดของเรา ดังเช่นคำว่า “จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว” สิ่งที่ต้องสร้างคือพลังบวก และต้องมีให้กับตัวเองเยอะๆ ค่ะ จากเวลาย้อนไป 15 ปีที่แล้ว ที่ดิฉันพบว่าเป็นมะเร็ง จนถึงปัจจุบัน ดิฉันเชื่อว่า การมองโลกในแง่บวก คิดดี ทำดี รักษาใจเราให้ดีร่างกายเราก็จะดีตาม อีกทั้งการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า วิธีการรักษาละวิวัฒนาการทางการแพทย์พัฒนาและดีขึ้นมาก เราต้องเชื่อมั่นกับแนวทางการรักษาของคุณหมอ ที่จะรักษาชีวิตเราไว้ให้ดีที่สุด ปล่อยให้กายเป็นหน้าที่ของแพทย์ ส่วนใจเราต้องรักษาเอง และหันกลับมาดูแลใส่ใจสุขภาพร่างกายให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อภูมิคุ้มกันเราดีและแข็งแรง เราจะสามารถพิชิตและต่อสู้กับโรคร้ายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ บริษัท เฟยดา จำกัด ที่ทำให้ดิฉันรู้จักยาน้ำเทียนเซียน ยาเม็ดเทียนเซียน ที่ดิฉันเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวยาเทียนเซียน ที่ดิฉันกินนั้นเกิดประโยชน์และสามารถทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี ส่งผลให้สุขภาพของดิฉันแข็งแรง ดิฉันรักษาตัวเองแบบวิธีผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบัน หรือเรียกว่า การรักษาแบบองค์รวม และดิฉันเชื่อมั่นว่า การดูแลตัวเองด้วยยาสมุนไพรเทียนเซียนนี้ ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยเสริมการรักษาของแพทย์ ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นผลดีต่อการรักษาซึ่งตัวดิฉันเองเชื่อมั่นมาตลอด ยาสมุนไพรเทียนเซียนดีต่อสุขภาพจริงๆ และปัจจุบันดิฉันก็กินควบคู่กับการรักษาของแพทย์ปัจจุบัน

ดิฉันกินยามุ่งเป้าและยาต้านฮอร์โมน ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ดิฉันรู้จักกับยาเทียนเซียน ดิฉันไม่แค่เป็นเพียงลูกค้าของเฟยดาเท่านั้น ที่มั่นใจในคุณภาพยาสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพที่ดีต่อการรักษาโรคมะเร็ง ยังได้แนะนำผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ให้ทานยาเทียนเซียนควบคู่ไปกับการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน น้องที่ดิฉันแนะนำ เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของยาเทียนเซียน หลังจากได้รับทราบข้อมูลและประโยชน์ที่ดิฉันแนะนำจึงได้รักษาแบบผสมผสาน เสมือนแพทย์องค์รวม ดิฉันดีใจมากที่ปัจจุบันน้องหายจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติแล้ว ซึ่งครอบครัวน้องก็ยังใช้เทียนเซียนเพื่อดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว

นอกจากนี้ ดิฉันยังมีโอกาสได้ทำประโยชน์ แชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งด้วยการให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารแมรี แคลร์ หัวข้อ “เมื่อมะเร็งพรากความงามจากเราไม่ได้” เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงด้วยกันที่ต้องเผชิญและต่อสู้กับโรคมะเร็ง อีกทั้งปัจจุบัน ดิฉันก็เป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสาในกลุ่ม “ เพื่อนช่วยเพื่อน” ของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในการช่วยเหลือสังคมให้คำแนะนำและแชร์ประสบการณ์การเป็นมะเร็งมาแล้วว่า เราจะสู้อย่างไร เพื่อให้ผู้ป่วยมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้าย ถึงแม้ว่าดิฉันจะกลับมาเป็นมะเร็งครั้งที่ 3 แล้วก็ตาม ดิฉันยอมรับ น้อมรับ และปล่อยวาง เพื่อให้จิตใจนั้นสบายก่อน แนวทางการรักษาก็ให้เป็นไปตามทางการแพทย์ และเราก็ดูแลตัวเองในการรักษาแบบองค์รวม โดยมียาสมุนไพรเทียนเซียน ช่วยดูแลสุขภาพเราอีกทางหนึ่ง

สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้เมื่อเป็นมะเร็ง คือ การอยู่กับลมหายใจทุกระดับจิตในปัจจุบัน และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพให้ดีที่สุด ไม่มีใครอยากเป็นโรคร้าย แต่เราฝืนชะตาไม่ได้ เราจึงต้องยอมรับและตั้งใจดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เราต้องสู้ด้วยหัวใจของเราเอง

ขอฝากความสำคัญของ 3 อ. ที่ดิฉันดูแลตัวเองอยู่เสมอ คือ อากาศ อาหาร และ อารมณ์ การที่เราได้รับอากาศดี สูดลมหายใจเข้าออกให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมาก ๆ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้ครบ 5 หมู่ และทำจิตใจให้แจ่มใสเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ อีกทั้งต้องนอนหลับให้เพียงพอเพื่อร่างกายจะได้ซ่อมแซมสิ่งที่สึกหรอ

สุดท้ายนี้ ดิฉันจึงอยากเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยทุกคนที่เป็นมะเร็งและกำลังรักษามะเร็งอยู่นั้น อย่าสิ้นหวังท้อแท้ ตราบใดที่เรายังตื่นมาและมีลมหายใจ นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว ให้เราคิดเสมอว่าไม่ได้มีแต่เราที่เป็นมะเร็งคนเดียวบนโลกนี้ เรายังมีเพื่อนอีกมากมายที่เป็นและกำลังรักษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทเรียงความกับประสบการณ์การเป็นมะเร็งของดิฉันจะเป็นประโยชน์เพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคน

กราบขอบพระคุณ บริษัท เฟยดา จำกัด มา ณ ที่นี้ ที่เปิดโอกาสให้ดิฉันได้แชร์ประสบการณ์เขียนเรียงความนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ สามารถทำให้ผู้ป่วยมะเร็งหรือบุคคลในครอบครัวมีหวังและมีกำลังใจต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อไปได้ จากการได้รับกำลังใจดีจากเพื่อนที่เคยป่วยและกำลังป่วยอยู่ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ สู้ๆ ไปด้วยกันนะคะ