มะเร็งปอดระยะแรกคืออะไร

15-Oct-2021 อ่าน : 546 คน

มะเร็งปอดระยะแรกคืออะไร

มะเร็งปอดระยะแรก หมายถึงมะเร็งปอดที่ยังไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น โดยทั่วไป มะเร็งปอดระยะแรก จะถูกจำแนกตามขนาดของเนื้องอก ดังนี้

T1: เนื้องอกมีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร
N0: ไม่มีต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้เคียงกับเนื้องอกที่ได้รับผลกระทบ
M0: ไม่มีมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่น

การผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก

การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาหลักสำหรับ มะเร็งปอดระยะแรก มีหลายวิธีการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และสุขภาพของผู้ป่วย โดยทั่วไป แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้

การผ่าตัดแบบเปิด: เป็นวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิม แพทย์จะกรีดแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าอกเพื่อเข้าถึงปอด วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดใหญ่ หรือมะเร็งปอดระยะลุกลาม
การผ่าตัดแบบส่องกล้อง: แพทย์จะเจาะรูเล็กๆ บนหน้าอก 2-3 รู ใส่กล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไป วิธีนี้ช่วยลดความเจ็บปวด และแผลมีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดเล็ก หรือมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น
การผ่าตัดแบบหุ่นยนต์: แพทย์จะควบคุมหุ่นยนต์กลไกผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์จะทำการผ่าตัดแทนแพทย์ วิธีนี้ช่วยเพิ่มความแม่นยำ และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกขนาดเล็ก หรือมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น

ผลข้างเคียงของการผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก

การผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด ระยะของมะเร็ง และสุขภาพของผู้ป่วย ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น

ปวดแผล: เป็นอาการปกติหลังการผ่าตัด แพทย์จะให้ยาแก้ปวด
หายใจลำบาก: อาจเกิดขึ้นชั่วคราว เนื่องจากปอดข้างที่ผ่าตัดออกยังไม่ทำงาน
ติดเชื้อ: อาจเกิดขึ้นบริเวณแผลผ่าตัด หรือปอด
เลือดออก: อาจเกิดขึ้นบริเวณแผลผ่าตัด
ลิ่มเลือดอุดตัน: อาจเกิดขึ้นในท่อนขา ส่งผลให้ขาบวม ปวด และร้อน
ปอดแฟบ: อาจเกิดขึ้นเมื่อมีลมรั่วเข้าไปในช่องว่างระหว่างปอดกับผนังหน้าอก
น้ำท่วมปอด: อาจเกิดขึ้นเมื่อมีน้ำคั่งในช่องว่างระหว่างปอดกับผนังหน้าอก

โอกาสหายขาดของการผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก

โอกาสหายขาดของการผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก สูงมาก โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่มี มะเร็งปอดระยะแรก มีโอกาสหายขาดสูงถึง 90%

โอกาสหายขาดของการผ่าตัดรักษามะเร็งปอดระยะแรก นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้

1. ชนิดของมะเร็งปอด

มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (NSCLC) : มีโอกาสหายขาดสูงกว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
มะเร็งต่อมอะดีนอลเวียโอเลอร์ (Adenocarcinoma) : มีโอกาสหายขาดสูงกว่ามะเร็งชนิดอื่นๆ

2. ระยะของมะเร็งปอด

ระยะ IA: มีโอกาสหายขาดสูงสุด
ระยะ IB: มีโอกาสหายขาดรองลงมา
ระยะ II: มีโอกาสหายขาดน้อยลง

3. ขนาดของเนื้องอก

เนื้องอกขนาดเล็ก: มีโอกาสหายขาดสูง
เนื้องอกขนาดใหญ่: มีโอกาสหายขาดน้อยลง

4. การแพร่กระจายของมะเร็ง

ไม่มีการแพร่กระจาย: มีโอกาสหายขาดสูง
มีการแพร่กระจาย: มีโอกาสหายขาดน้อยลง

5. สุขภาพของผู้ป่วย

สุขภาพแข็งแรง: มีโอกาสหายขาดสูง
สุขภาพอ่อนแอ: มีโอกาสหายขาดน้อยลง

6. ประสบการณ์ของแพทย์

แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง: ผ่าตัดได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสหายขาด

7. เทคโนโลยีที่ใช้ในการผ่าตัด

เทคโนโลยีที่ทันสมัย: ช่วยให้ผ่าตัดได้แม่นยำ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสหายขาด

8. การดูแลหลังการผ่าตัด

การดูแลที่เหมาะสม: ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสหายขาด

โดยสรุป มะเร็งปอดระยะแรก มีโอกาสหายขาดสูงด้วยการผ่าตัด ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา ล้วนส่งผลต่อโอกาสหายขาด ดังนั้น ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโอกาสหายขาด และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรดูแลสุขภาพ ทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มโอกาสหายขาด และใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี